บันทึกการเรียนครั้งที่ 8
วันพุธ  ที่ มีนาคม 2561
เนื้อหา
-นำเสนอคำคมผู้บริหาร







การนำเสนองานวิจัย
งานวิจัย : การบริหารการศึกษาตามหลักธรรมาภิบาล โรงเรียนขยายโอกาส ทางการศึกษา อำเภอ เลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี
การศึกษาระดับ  : ปริญญาพุทธศาสตรมหาบัณฑิต
มหาวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
ผู้วิจัย : พระสุธิศักดิ์ สุภกิจฺโจ (เขียวหวาน)
ปีการศึกษา : 2554

วัตถุประสงค์ของการวิจัย
๑.๒.๑ เพื่อศึกษาการบริหารการศึกษาตามหลักธรรมาภิบาล โรงเรียนขยายโอกาส      ทางการศึกษาอำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี
๑.๒.๒ เพื่อเปรียบเทียบระดับความคิดเห็นต่อการบริหารการศึกษาตามหลัก
ธรรมาภิบาล โรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี
๑.๒.๓ เพื่อศึกษาแนวทางการบริหารการศึกษาตามหลักธรรมาภิบาลโรงเรียนขยาย
โอกาสทางการศึกษา อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี

ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
      ๑. ทำให้ทราบการบริหารการศึกษา ตามหลักธรรมาภิบาล โรงเรียนขยายโอกาส ทางการศึกษา อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี
      ๒. ทำให้ทราบการเปรียบเทียบระดับความคิดเห็นต่อการบริหารการศึกษาตามหลัก ธรรมาภิบาล โรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี
      ๓.ทำให้ทราบการศึกษาแนวทางการบริหารการศึกษาตามหลักธรรมาภิบาล โรงเรียน ขยายโอกาสทางการศึกษา อำเภอ เลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี

ขอบเขตของการศึกษาวิจัย
        ๑ ขอบเขตด้านเนื้อหา การวิจัยครั้งนี้มุ่งศึกษาเกี่ยวกับการบริหารการศึกษาตามหลักธรรมาภบาล โรงเรียน ขยายโอกาสทางการศึกษา อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยระบบการบริหารกิจการบ้านเมืองและสังคมที่ดี พ.ศ. ๒๕๔๒ ซึ่งกำหนดหลักพื้นฐานการ บริหารตามหลักธรรมาภิบาล ๖ ประการ
         ๒ ขอบเขตด้านประชากร ประชากรที่ศึกษาได้แก่ ครูที่ทำหน้าที่สอนหนังสือโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี จำนวน ๑๓ แห่ง ซึ่งมีครูจำนวน ๑๖๐ คน
         ๓ ขอบเขตด้านพื้นที่ เป็นการศึกษาเฉพาะ โรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา ที่ตั้งอยู่ใน อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี จำนวน ๑๓ โรงเรียน คือ จนบุรี

ตัวแปรที่ใช้ในการวิจัย 
ตัวแปรอิสระ/ตัวแปรต้น /ตัวจัดกระทำ
 การบริหารการศึกษาตามหลักธรรมาภิบาล โรงเรียนขยายโอกาส ทางการศึกษา อำเภอ เลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี

ตัวแปรตาม
ประชากรที่ศึกษาเป็นการศึกษาครูผู้ทำหน้าที่สอนหนังสือในโรงเรียนขยายโอกาสทาง การศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ ที่ตั้งอยู่ในอำเภอ เลาขวัญ จังหวัด กาญจนบุรีจำนวน ๑๓ โรงเรียนซึ่งปรากฏในปีการศึกษา ๒๕๕๔ รวมครูทั้งหมดจำนวน ๑๖๐ คน

สมมุติฐานการวิจัย
๑ ครูเพศต่างกันมีความคิดเห็นต่อการบริหารการศึกษาตามหลักธรรมาภิบาล โรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา แตกต่างกัน
๒ ครูอายุต่างกันมีความคิดเห็นต่อการบริหารการศึกษาตามหลักธรรมาภิบาล โรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา แตกต่างกัน
 ๓ ครูมีวุฒิการศึกษาต่างกันมีความคิดเห็นต่อการบริหารการศึกษาตามหลัก ธรรมาภิบาล โรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา แตกต่างกัน
 ๔ ครูมีประสบการณ์สอนต่างกันมีความคิดเห็นต่อการบริหารการศึกษาตามหลัก ธรรมาภิบาล โรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา แตกต่างกัน
 ๕ ครูสอนระดับชั้นต่างกันมีความคิดเห็นต่อ

วิธีดำเนินการวิจัย
ประชากร
ประชากรที่ศึกษาเป็นการศึกษาครูผู้ทำหน้าที่สอนหนังสือในโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔  ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ ที่ตั้งอยู่ในอำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรีจำนวน ๑๓ โรงเรียนซึ่งปรากฏในปีการศึกษา ๒๕๕๔ รวมครูทั้งหมดจำนวน ๑๖๐ คน

เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย
๑. แบบสอบถามข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับสถานภาพของผู้ตอบแบบสอบถาม
๒.เป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับการบริหารการศึกษาตามหลักธรรมาภิบาล โรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี

สรุปผลการวิจัย
การศึกษาเรื่องการบริหารการศึกษาตามหลักธรรมาภิบาล โรงเรียนขยายโอกาสทาง
การศึกษาอำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี สรุปได้ดังนี้
๕.๑.๑ ข้อมูลทั่วไปของครูผู้ตอบแบบสอบถาม
ครูผู้ตอบแบบสอบถามจำนวนทั้งสิ้น ๑๖๐ คน ส่วนใหญ่เป็นหญิง จำนวน ๙๗ คนคิดเป็นร้อยละ ๖๐.๖ เป็นชาย จำนวน ๖๓ คน คิดเป็นร้อยละ ๓๙.๔
๕.๑.๒ผลการวิเคราะห์ความคิดเห็นของครูผู้สอนที่มีต่อการบริหารการศึกษาตามหลัก ธรรมาภิบาล โรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษาอำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรีโดยรวมอยู่ใน ระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่าครูมีความเห็นอยู่ในระดับมากทุกข้อ




การนำมาประยุกต์ใช้
   นำทักษะเหล่านี้ไปใช้ในการจัดการเรียนการสอนและใช้ในการปรับปรุงตัวเองเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน

การประเมิน
ประเมินตัวเอง  เข้าเรียนตรงต่อเวลาและตั้งใจฟังอาจารย์สอน
ประเมินเพื่อน  เพื่อนๆมาเรียนกันตรงต่อเวลาและตอบคำถาม
ประเมินอาจารย์ผู้สอน อาจารย์มีเอกสารประกอบการเรียนและแนะนำได้ดี

ความคิดเห็น