บันทึกการเรียนครั้งที่ 8
วันพุธ ที่ 7 มีนาคม 2561
เนื้อหา
-นำเสนอคำคมผู้บริหาร
การนำเสนองานวิจัย
งานวิจัย
: การบริหารการศึกษาตามหลักธรรมาภิบาล โรงเรียนขยายโอกาส ทางการศึกษา อำเภอ
เลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี
การศึกษาระดับ : ปริญญาพุทธศาสตรมหาบัณฑิต
มหาวิทยาลัย
: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
ผู้วิจัย
: พระสุธิศักดิ์ สุภกิจฺโจ (เขียวหวาน)
ปีการศึกษา
: 2554
วัตถุประสงค์ของการวิจัย
๑.๒.๑
เพื่อศึกษาการบริหารการศึกษาตามหลักธรรมาภิบาล โรงเรียนขยายโอกาส ทางการศึกษาอำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี
๑.๒.๒
เพื่อเปรียบเทียบระดับความคิดเห็นต่อการบริหารการศึกษาตามหลัก
ธรรมาภิบาล
โรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี
๑.๒.๓
เพื่อศึกษาแนวทางการบริหารการศึกษาตามหลักธรรมาภิบาลโรงเรียนขยาย
โอกาสทางการศึกษา
อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
๑. ทำให้ทราบการบริหารการศึกษา
ตามหลักธรรมาภิบาล โรงเรียนขยายโอกาส ทางการศึกษา อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี
๒.
ทำให้ทราบการเปรียบเทียบระดับความคิดเห็นต่อการบริหารการศึกษาตามหลัก ธรรมาภิบาล
โรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี
๓.ทำให้ทราบการศึกษาแนวทางการบริหารการศึกษาตามหลักธรรมาภิบาล
โรงเรียน ขยายโอกาสทางการศึกษา อำเภอ เลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี
ขอบเขตของการศึกษาวิจัย
๑ ขอบเขตด้านเนื้อหา
การวิจัยครั้งนี้มุ่งศึกษาเกี่ยวกับการบริหารการศึกษาตามหลักธรรมาภบาล โรงเรียน
ขยายโอกาสทางการศึกษา อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี
ว่าด้วยระบบการบริหารกิจการบ้านเมืองและสังคมที่ดี พ.ศ. ๒๕๔๒
ซึ่งกำหนดหลักพื้นฐานการ บริหารตามหลักธรรมาภิบาล ๖ ประการ
๒ ขอบเขตด้านประชากร
ประชากรที่ศึกษาได้แก่ ครูที่ทำหน้าที่สอนหนังสือโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา
อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี จำนวน ๑๓ แห่ง ซึ่งมีครูจำนวน ๑๖๐ คน
๓ ขอบเขตด้านพื้นที่ เป็นการศึกษาเฉพาะ
โรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา ที่ตั้งอยู่ใน อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี จำนวน
๑๓ โรงเรียน คือ จนบุรี
ตัวแปรที่ใช้ในการวิจัย
ตัวแปรอิสระ/ตัวแปรต้น
/ตัวจัดกระทำ
การบริหารการศึกษาตามหลักธรรมาภิบาล
โรงเรียนขยายโอกาส ทางการศึกษา อำเภอ เลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี
ตัวแปรตาม
ประชากรที่ศึกษาเป็นการศึกษาครูผู้ทำหน้าที่สอนหนังสือในโรงเรียนขยายโอกาสทาง
การศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ – ชั้นมัธยมศึกษาปีที่
๓ ที่ตั้งอยู่ในอำเภอ เลาขวัญ จังหวัด กาญจนบุรีจำนวน ๑๓
โรงเรียนซึ่งปรากฏในปีการศึกษา ๒๕๕๔ รวมครูทั้งหมดจำนวน ๑๖๐ คน
สมมุติฐานการวิจัย
๑
ครูเพศต่างกันมีความคิดเห็นต่อการบริหารการศึกษาตามหลักธรรมาภิบาล
โรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา แตกต่างกัน
๒
ครูอายุต่างกันมีความคิดเห็นต่อการบริหารการศึกษาตามหลักธรรมาภิบาล
โรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา แตกต่างกัน
๓
ครูมีวุฒิการศึกษาต่างกันมีความคิดเห็นต่อการบริหารการศึกษาตามหลัก ธรรมาภิบาล
โรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา แตกต่างกัน
๔
ครูมีประสบการณ์สอนต่างกันมีความคิดเห็นต่อการบริหารการศึกษาตามหลัก ธรรมาภิบาล
โรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา แตกต่างกัน
๕ ครูสอนระดับชั้นต่างกันมีความคิดเห็นต่อ
วิธีดำเนินการวิจัย
ประชากร
ประชากรที่ศึกษาเป็นการศึกษาครูผู้ทำหน้าที่สอนหนังสือในโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา
ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ ที่ตั้งอยู่ในอำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรีจำนวน ๑๓
โรงเรียนซึ่งปรากฏในปีการศึกษา ๒๕๕๔ รวมครูทั้งหมดจำนวน ๑๖๐ คน
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย
๑.
แบบสอบถามข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับสถานภาพของผู้ตอบแบบสอบถาม
๒.เป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับการบริหารการศึกษาตามหลักธรรมาภิบาล
โรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี
สรุปผลการวิจัย
การศึกษาเรื่องการบริหารการศึกษาตามหลักธรรมาภิบาล
โรงเรียนขยายโอกาสทาง
การศึกษาอำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี สรุปได้ดังนี้
๕.๑.๑ ข้อมูลทั่วไปของครูผู้ตอบแบบสอบถาม
ครูผู้ตอบแบบสอบถามจำนวนทั้งสิ้น ๑๖๐ คน ส่วนใหญ่เป็นหญิง
จำนวน ๙๗ คนคิดเป็นร้อยละ ๖๐.๖ เป็นชาย จำนวน ๖๓ คน คิดเป็นร้อยละ ๓๙.๔
๕.๑.๒ผลการวิเคราะห์ความคิดเห็นของครูผู้สอนที่มีต่อการบริหารการศึกษาตามหลัก
ธรรมาภิบาล โรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษาอำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรีโดยรวมอยู่ใน
ระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่าครูมีความเห็นอยู่ในระดับมากทุกข้อ
การนำมาประยุกต์ใช้
นำทักษะเหล่านี้ไปใช้ในการจัดการเรียนการสอนและใช้ในการปรับปรุงตัวเองเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
การประเมิน
ประเมินตัวเอง เข้าเรียนตรงต่อเวลาและตั้งใจฟังอาจารย์สอน
ประเมินเพื่อน เพื่อนๆมาเรียนกันตรงต่อเวลาและตอบคำถาม
ประเมินอาจารย์ผู้สอน
อาจารย์มีเอกสารประกอบการเรียนและแนะนำได้ดี
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น